Amulet
สมเด็จ ๙ ชั้นดี รุ่นสำเร็จศิลาแลง “แรง”
พระสมเด็จในยุคนี้ที่น่าเก็บสะสมและใช้บูชาอีกหนึ่งรุ่นก็คือ
“สมเด็จ ๙ ชั้นดี รุ่น สำเร็จศิลาแลง “แรง” หลวงปู่ศิลา สิริจันโท ปี ๒๕๖๓
จากภาพที่เห็นจะเป็นเนื้อธรรมดา เนื้ออิฐศิลาแลง พระสมเด็จศิลาแรง พระศรีอาริย์เทวานิมิต ทั้งแรงทั้งอาถรรพ์
สมเด็จ๙ชั้นดี รุ่น สำเร็จศิลาแลง (แรง)
กรรมการสร้าง 448
ธรรมดาสร้าง 6105
เรื่องอิฐพระธาตุพนม
ผมเคยได้ยินเรื่องราวเล่าขานถึงตำนานของคนที่นำสิ่งใดที่เป็นของพระธาตุติดมือไปเมื่อครั้งพระธาตุล้มปี 2518 ก็ต้องเอามาคืนทุกคน เกิดจากอาถรรพ์ของมเหสักอารักพระธาตุพนม ผมเป็นคนไปเชิญมวลสารมา โดยไม่เก็บไว้แม้แต่น้อยเพราะเกรงฤทธิ์พระธาตุ
ก่อนหลวงปู่เดินทางไปพระธาตุ 1 วัน ผมได้บวชแล้ว พี่ทิพย์ (ดร.อรุณทิพย์) ได้โทรมาบอกว่า หลวงปู่พูดมาหลายวันแล้วว่า อิฐพระธาตุ คนให้มาพระให้มา แต่ผีบ่อให้ บ่รู้จะทำไง ให้หลวงพี่ถามหลวงปู่ในรถ ว่าจะทำอย่างไร ระหว่างทางไปพระธาตุ ผมเห็นท่านอารมย์ดีแล้ว จึงได้โอกาสเรียนถามท่าน ถึงแนวทาง ท่านก็บอกว่า ท่านคุยแล้วเทพให้ พระให้ นาคให้ แต่ผีไม่ให้ เลยต้องไปคุยด้วยตนเอง ทุกคนในรถก็เงียบ จนเสร็จพิธีระหว่างทางกลับ จึงเรียนถามท่านอีกคำรบ ท่านบอกว่าเคลียแล้ว ขอปู่เทพช่วยพูด ขอบารมีพระศรีอาริย์ช่วย จึงมีสัญญาว่าเป็นนัยยะว่า ท่านจะไม่ขาย โดยท่านสั่งกำชับว่าให้เก็บองค์กรรมการไว้ให้ท่าน 50 องค์ โดยองค์ท่านจะเก็บรักษาไว้เป็นประกัน เหล่าผีนั้นจึงยอม ปัจจุบันพระทั้ง 50 องค์เก็บไว้ในกล่องหนังอย่างดีที่ท่านสั่งให้ ดร.อรุณทิพย์นำมาถวาย เพื่อเป็นเคล็ดและเป็นสัญญากับเหล่าผีเฝ้าสมบัติพระธาตุ ผมจึงเรียนถามท่านไปอีกว่า แล้วคนเอาไปบูชาจะเป็นอย่างไร ท่านว่าด้านหน้าพระสมเด็จเป็นรูปพระพุทธเจ้า ด้านหลังเป็นพระภควัมบดี(พระปิดตา) มีแต่เทวดาเท่านั้นหล่ะ ที่สถิตอยู่ อย่าวางที่ต่ำ ใครมีจิตอธิษฐานขอสิ่งใด จะได้ตามบุญที่ตนสะสมมา ดีที่สุด เป็นพระรุ่นเดียวของท่าน ที่ท่านเก็บ ทำพระกี่รุ่นกี่รุ่นท่านแจกหมด ท่านยังทิ้งท้ายว่า 3 เดือนขึ้นห้าหมื่น 1 ปีขึ้น 1 แสน ฟังแค่นี้ไม่มีใครเชื่อเลย วันรุ่งขึ้น องค์กรรมการที่ออกวัด 1500 บ. มีการเช่าหาถึง 1 หมื่นบาท เพียงแค่ข้ามคืน ใครมีให้เก็บนะครับ รุ่นนี้ถือเป็นของสูง หลวงปู่ท่านไฟต์มาด้วยความลำบาก อนาคตผมว่าไม่หนีจากพระแก้วแจกทานหลวงปู่หมุนแน่นอน
แก้วนางฝาน
เชื่อกันว่า ทำให้มีความเจริญล้างอาถรรพย์ทั้งมวลโดยนำมา ทำน้ำมนต์ กันคุณไสย กันผี กันไฟเชื่อว่าบูชาดีแก้วตะกูลนี้ออกแสงได้
ของดีจากเมืองลาว เชื่อว่าค้ำคูณ ทำให้เจริญ ล้างอาถรรพย์ทั้งมวลโดยนำมาสรงทำน้ำมนต์กันคุณไสยกันผีกันไฟ เชื่อว่าบูชาดีแก้วตะกูลนี้ออกแสงได้ มีตำนานหนึ่งว่า หลวงปู่ศรีทัต สุวรรณมาโจ ท่านสร้างพระธาตุท่าอุเทน (ตำราอีสานว่าเป็นธาตุประจำวันเกิดของวันศุกร์) ท่านไม่ได้ก่อเสาเข็มแต่อย่างใด ท่านใช้ แก้วนางฝานนี้แล มารองรับองค์พระธาตุไว้
มีการบอกเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่า “หลวงปู่สีทัตถ์” สร้างพระธาตุท่าอุเทน ด้วย “หินแก้วนางฝาน(ธาตุกายสิทธิ์)” โดยท่านสร้างขึ้นมาเหมือนองค์พระธาตุพนมในยุดต้น ทั้งที่ฐานรองรับก็เพียงขุดหลุมแล้วใส่หินนางเรียง หรือหินแก้วนางฝาน เป็นฐานรองรับองค์พระธาตุเท่านั้น ปัจจุบันแม้จะมีอายุยาวนานถึง 100 กว่าปี ยังไม่มีทรุดแต่ประการใด !!
จึงนับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์มิใช่น้อย เพราะการนำเอาหินแก้วนางฝานหรือแก้วนางเรียง อันเป็นธาตุกายสิทธิ์ ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อแรกเห็นตัวหินจะอ่อนนุ่มจนสามารถตัดให้ขาด จึงเรียกกันว่า”แก้วนางฝาน” อานุภาพของแก้วนางฝานกล่าวกันว่ามีอำนาจทางชุ่มเย็นและเป็นสิริมงคลล้างอาถรรพณ์ทั้งหลายทั้งปวงได้ !!
“แก้วนางฝาน” หรือ “แก้วนางเรียง” ก็คือ “หินเขี้ยวหนุมาน” ชนิดหนึ่ง คนโบราณเล่าว่ามีอำนาจทางคงกระพัน ป้องกันอัคคีภัย ในสมัยก่อนการหาแก้วนางฝานหรือแก้วนางเรียงนั้นยาก เพราะสมัยนั้นยังไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ การพบแล้วนำแก้วนางฝานมารองรับองค์พระธาตุได้นี้ นับว่าเป็นบุญบารมีอภินิหารอันแก่กล้าของหลวงปู่สีทัตถ์ !!
แก้วนางฝานพระธาตุพนมที่ขุดค้นพบใต้ฐานพระธาตุพนม ได้มาเพียงก้อนเดียว คาดว่าถูกบรรจุไว้ครั้งการบูรณะพระธาตุพนมโดยเจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก(ยาคูขี้หอม) นำมาพลีบดแล้วได้เพียง 1 ช้อนแกง บรรจุในองค์กรรมการ ใครครอบครองถือเป็นมงคลยิ่ง ในประวัติศาสตร์การสร้างวัตถุมงคลของพระธาตุพนม ไม่เคยมีรุ่นใดบรรจุแก้วนางฝาน และเป็นครั้งแรกที่นำศิลาแรงมาบดพลีสร้างพระสมเด็จ 9 ชั้นที่เป็นครูบาอาจารย์อื่นที่ไม่ใช่พระในวัดพระธาตุพนม หรือ ครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณแก่วัดพระธาตุพนม และยืนยันได้ว่า อิฐที่ขุดบูรณะการทำท่อสายไฟ องค์พระธาตุครั้งนี้มีเพียง 2 กระสอบ และดำเนินการบดพลีเป็นพระผงเจ้าเฮือน 3 มเหศักดิ์ผู้พิทักษ์องค์พระธาตุพนม และสมเด็จศิลาแลง ด้วยความเมตตาจากพระเดชพระคุณพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสพระธาตุพนมที่มอบมวลสาร นั่งปรก ตลอดจนกำกับการทำลายบล๊อกด้วยองค์ท่านเอง
พระรุ่นนี้เป็นพระรุ่นเดียวที่หลวงปู่ท่านสั่งให้กรรมการเก็บองค์กรรมการไว้ให้ท่าน 50 องค์ และท่านก็ไม่นำออกแจกใครท่านเก็บรักษาอย่างดี และทิ้งท้ายว่านี่คือสัญญาที่ท่านให้ไว้แก่องค์พระธาตุพนม
ลองเปิดกล่องส่องดูครับ ผมเพิ่งทราบข้อมูลจากผู้สร้างเมื่อสักครู่ องค์กรรมการบางองค์จะฝังแก้วสีแดง ผมจึงยกหูโทรศัพท์ทันที ปรากฎว่าขั้นตอนของการฝังองค์กรรมการ ผู้สร้างได้นำแก้วเพทายสีแดง ที่ขุดค้นพบที่พระธาตุพนมเพียงเมล็ดถั่วเขียวเพียง 2 ก้อน ได้นำบดพลี แล้วรวมกับแก้วต่างๆที่จะฝังในองค์กรรมการเพียง 1 ช้อนแกง องค์พระธาตุพนมนับว่าเป็นสถานที่สำคัญของพี่น้องสองฝั่งโขง อัญมณีแก้ววิเศษต่างๆจึงถูกนำมาบรรจุไว้ใต้ดินบ้างในองค์ธาตุบ้าง แก้วเพทายแดง จากความเชื่อเรื่องอัญมณีคือสัญลักษณ์แห่งโชคลาภ และบารมี คาดว่าจะมีองค์ที่มีการโรยติดแก้วแดงนี้จำนวนหนึ่งแต่ไม่น่าจะเกิน 40 องค์ ลองส่องดูดีๆ เผื่อมีฟลุคครับ
ขออนุญาตภาพจากพี่ๆด้วยครับ ใครส่อยเจอเอาภาพมารวมกันตรงนี้ครับ
มวลสารจากพระธาตุพนมทั้งหมด ประกอบด้วยแก้วนางฝาน แก้วน้ำโขง แก้วสีทวารวดี เศษไหบรรจุพระ กระเบื้อง อิฐ รวมกันขึ้นเป็นสมเด็จศิลาแลง
พระรุ่นนี้เป็นพระรุ่นเดียวที่หลวงปู่ท่านสั่งให้กรรมการเก็บองค์กรรมการไว้ให้ท่าน 50 องค์ และท่านก็ไม่นำออกแจกใครท่านเก็บรักษาอย่างดี และทิ้งท้ายว่านี่คือสัญญาที่ท่านให้ไว้แก่องค์พระธาตุพนม
หลวงปู่พระมหาศิลา สิริจันโท รุ่น”ศิลาแลง(แรง)”
มวลสารทั้งหมดจากวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหารโดยท่านเจ้าคุณพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมฯ ได้เมตตาถวาย และ ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ ณ จัมปาศักดิ์ ได้ออกแบบแม่พิมพ์สั่งแกะแม่พิมพ์และดำเนินการควมคุมการบดมวลสาร จนถึงขั้นตอนของการผสมมวลสารและกดบล๊อกละเอียดชัดเจนในพิธีกรรมทุกขั้นตอน
ทั้งนี้อิฐพระธาตุพนมทั้งหมดที่ได้เกิดขึ้นจากการบูรณะการทำท่อสายไฟซึ่งออกจากองค์พระธาตุพนม ซึ่งไม่มีการขุดเจาะพื้นองค์พระธาตุมายาวนานมาก การนี้ได้พบหินศิลาแลง อิฐดินจี่ อิฐยุคเจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก และปูนสะทายเพชรซึ่งบ่งบอกถึงอายุและประวัติการบูรณะมาหลายครั้ง และการนี้เป็นการขุดพบศิลาแลงเป็นครั้งแรกซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าศิลาแลงนี้มีอายุการบูรณะราวยุคอาณาจักรขอมราว 1000 ปี หลวงปู่ท่านกล่าวว่าเศษอิฐเศษดินพระธาตุพนมมีเทวดารักษาอยู่มาก แม้ใครเก็บมาไว้บ้านก็ได้นำไปคืนทุกครั้ง แต่ถ้าหากเป็นการนำเศษอิฐที่จะทิ้งเหล่านั้น นำมาสร้างเป็นองค์พระปฏิมา สัญลักษณ์แห่งความดีงาม อิฐนั้นก็จะขลังยิ่งนัก ไม่ต้องเอามวลสารใดมาเจือปน เพราะพระธาตุพนมเป็นของสูง อิฐตรงนี้เสกมานับครั้งไม่ได้ ห่อหุ้มพระอุรังคธาตุยาวนานมากว่า 2000 ปี ผู้นำไปบูชาจะเกิดความสุขสวัสดิ์ แคล้วคลาดปลอดภัย อุดมด้วย โภคทรัพย์ บริวาร ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ด้วยเดชะอำนาจบารมีแห่งองค์พระธาตุพนม
ร่วมเผยแผ่บารมีสมเด็จศิลาแลงแรง
ขออนุญาตเจ้าของบทความครับ
แบ่งปันสมาชิกที่ยังไม่ทราบประวัติการสร้างครับ
บันทึกตำนาน #พระสมเด็จศิลาแรง
(วันนี้อาจจะเขียนยาวหน่อยต้องขออภัยด้วยนะครับ)
…การสร้างพระสมเด็จรุ่นนี้นั้นทุกท่านคงได้รับทราบแล้วนะครับ กว่าจะสำเร็จมาเป็นองค์ยากขนาดไหน วันนี้กระผมมีโอกาสได้ศึกษาข้อมูลที่เป็นจริง มีรายลักษณ์อักษร เกี่ยวกับเจ้าเฮือน3พระองค์ที่องค์หลวงปู่ท่านได้คุยเจรจา เพื่อขอเอาศิลาแรงมาทำเป็นพระสมเด็จรุ่นนี้ โดยท่านอาจารย์ ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ ได้อนุเคราะห์ข้อมูลมาเผยแผ่เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ทุกท่าน ที่มีความเคารพศรัทธาในองค์พระ ความอาถรรพ์ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระธาตุพนม…
ผม : หลวงปู่ครับดินพระธาตุสำคัญศักดิ์สิทธิ์เอามาเฮ็ดพระเป็นตาขลังคักเนาะครับ
ลป : ขอเพิ้นมากะเพยดาให้ พญานาคให้ แต่ผีบ่ทันให้ ต้องเจรจากันเติบอยู่
ผม : ผู้เฝ้าพระธาตุพนมเพิ้นห้ายคักบ่ครับหลวงปู่
ลป : ตั้งแต่ข่อยสร้างเสกพระมามีรุ่นนี้ละอาถรรพ์แรงคัก
ผม : อาถรรพ์อย่างไรครับหลวงปู่
ลป : เจ้าคิดเบิ่งวาก่อนพระสิแล้ว3มื้อ ค่อยบ่ได้หลับเลย นั่งเบิดคืนซอดแจ้ง
ผม : แล้วมีเหตุอันใดหลวงปู่คือคึดหลายแท้ครับ
ลป : ปล้ำกับผีนั่นนาาา ผู้เฝ้ารักษาองค์พระธาตุพนม
ตำนานเจ้าเฮือน3พระองค์ผู้เฝ้ารักษาพระธาตุ
…ประวัติความเป็นมาเจ้าเฮือนสามพระองค์ ได้มีผู้ศึกษาวิจัยไว้น่าสนใจอยู่ 3 ตำนาน ใน3 นั้น เป็นลายลักษณ์อักษรที่มีมาแต่เดิมเพียงตำนานเดียวที่ปรากฎในเอกสารอุรังคนิทานฉบับพระเทพรัตนโมลี อีก 2 ตำนานเป็นคำบอกเล่าสืบๆมาของพื้นถิ่นอำเภอธาตุพนม…
ตำนานที่1 (มุขปาฐะ) เชื่อว่า เจ้าเฮือนสามพระองค์ เป็นชนชั้นปกครองของเหล่าข้าโอกาส เมื่อครั้งสร้างพระธาตุพนมสำเร็จ มีการเลือกสรรหาผู้นำในการรักษาองค์พระธาตุ ซึ่งการคัดสรรนั้น ต้องแสดงความสามารถให้ปรากฎ จึงใช้วิธีว่า ใคร ขึ้นไปบนยอดองค์พระธาตุ กระโดดลงมาสู่พื้นแล้วมีชีวิตรอด ให้ผู้นั้นเป็นผู้รักษาผู้ปกครอง มีวีรบุรุษผู้กล้าอยู่ 3 คน ลำดับที่ 1,2 กระโดดลงเมื่อถึงพื้นแล้วเสียชีวิตทันที ลำดับที่3 เมื่อกระโดดลงมาแล้วมีชีวิตรอดแต่ต่อมาคลานไปเสียชีวิตอยู่ริมฝั่งโขง ทิศตะวันออกองค์พระธาตุพนม จึงได้มีการเคารพนับถือทั้งสามนั้นเป็นเจ้าเฮือนสามพระองค์
ตำนานที่2 (มุขปาฐะ) เชื่อว่าเจ้าเฮือนสามพระองค์ เป็นกษัตริย์ 3 พี่น้อง โดยมี 1 ใน 3 ใจเด็ดเดี่ยว ทำการฆ่าพี่น้องตน เมื่อฆ่าองค์ที่1 วิญญานไปจุติบังเกิดเป็นมเหศักดิ์รักษาเมืองหลวงพระบาง ฆ่าองค์ที่2 วิญญานไปบังเกิดจุติเป็นมเหศักดิ์รักษาปราสาทหินวัดภู แล้วท้ายสุด ได้ฆ่าตัวพระองค์เองตามท้ายวิญญานไปบังเกิดจุติเป็นมเหศักดิ์รักษาองค์พระธาตุพนม ทั้งสองตำนานข้างต้นล้วนเป็นมุขปาฐะเล่าสืบๆมาในกลุ่มผู้เคารพศรัทธาเจ้าเฮือนสามพระองค์ในอำเภอธาตุพนมตามที่ปรากฎในงานวิจัยของ พิเชษฐ์ สายพันธุ์ และ สมศักดิ์ เพชรคำ
ตำนานที่3 (ปรากฎในเอกสารใบลานอักษรธรรม อุรังคนิทาน ฉบับพระเทพรัตนโมลี(แก้ว กันโตภาโส อุทุมมาลา) ปริวรรต(ผูกเดียวจบ) ได้บันทึกไว้ว่า เมื่อครั้งสร้างพระธาตุพนมแล้วเสร็จ พระอินทร์ ได้มีบัญชาตั้ง มเหศักดิ์ใหญ่ 3 พระองค์ ให้รักษายังภาคพื้นเขตพระธาตุพนม มีชื่อตามลำดับว่า 1 ทักขิณรัฎฐา (เจ้าเมืองขวา) , 2 สหัสสรัฎฐา (เจ้าเมืองแสน) , 3 นาคกุฎวิตถาร (เจ้าโต่งกว้าง) จึงถือเป็นมเหศักดิ์ใหญ่ 3 พระองค์สืบมาจวบจนถึงปัจจุบัน
ช่างสันติ ล้านช้างปฎิมากรรม : ปั้น # ช่างโอภาส : หล่อโลหะ # ผศ.พฉพ.ดร. ปฐมพงศ์ , ผศ.ดร.อธิราชย์ ,
อ สุนัน , กำนันธนัตชัย , ท่านธนกฤต : ศึกษาข้อมูล(บันทึกไว้ศึกษาส่วนตัว 23 กันยายน 2563)
ผม : แล้วสุดท้ายสำเร็จแม่นบ่ครับ
ลป : แม่น! เพิ้นมาอนีโมทนานำบาดสุดท้าย
ผม : แสดงวาพระสมเด็จของหลวงปู่อันนี้ขลังคัก
ลป : #คักบ่คักขนาดข่อยเฮ็ดประกันกับผีไว้5555 #ที่แน่ๆข่อยกะพกติดโตละไป่(อยู่ในถุงอังสะของท่าน) #เพิ้นบอกไว้ว่าพระทุกองค์เพิ้นและบริวารสิงสถิตอยู่ในนั่นนับบ่ถ้วน เจ้าอธิฐานบอกทุกมื้อๆเด้อ ดอกไม้ของหอมทุกวันพระเพิ้นมักคนบูชา
…จากที่เขียนมานี้กระผมไม่ได้โฆษณาหรือปั่นกระแสอะไรนะครับ เพราะกระผมเองก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดสร้าง ไม่มีส่วนในประโยชน์แต่อย่างใด แต่ที่นำมาเผยแพร่บรรจงเขียนให้อ่านนี้เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ท่านผู้เคารพศรัทธา ต่อองค์หลวงปู่และความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุพนม สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดการสร้างพระครั้งนี้เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้ดำรงคงไว้ซึ้งศาสนสถาน เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจแก่ทุกท่านที่ได้บูชา #ของแรงครูแรงของจริงคนจริง…
cr. เพจ อ.ลิ้งค์